สูตรอาหาร

แคบหมูไร้มัน สูตรด่วน

16
แคบหมูไร้มัน ลักษณะเป็นวงกลม สีเหลืองทองน่ารับประทาน วางรวมกันจำนวนมากในภาชนะ พร้อมภาพประกอบด้านข้างแสดงขั้นตอนการเตรียมหนังหมูก่อนทอด

ㅤㅤㅤหลายคนน่าจะเคยลิ้มลองความอร่อยของแคบหมู เสียงแตกเป๊าะเมื่อเคี้ยวเข้าปาก ความกรุบกรอบที่ยากจะต้านทาน แต่พอกินไปเยอะๆ ก็อดกังวลเรื่องไขมันที่ตามมา แล้วถ้ามีแคบหมูไร้มันโผล่ขึ้นเป็นทางเลือก จะยังคงอร่อยเหมือนเดิมหรือเปล่า เบื้องหลังความกรอบฟูที่ดูเหมือนจะไร้มันยังมีกลไกอะไรซ่อนอยู่ โดยเฉพาะสายสุขภาพที่ยังอยากเอ็นจอยกับของอร่อย

ㅤㅤㅤแคบหมูที่เราคุ้นเคยกันดีนั้นโดยพื้นฐานแล้ว คือการนำหนังหมูมาผ่านกระบวนการทอดจนพองกรอบ เสน่ห์ของมันอยู่ที่เนื้อสัมผัสที่หลากหลาย ตั้งแต่ส่วนที่กรอบร่วนไปจนถึงส่วนที่อาจจะยังคงความหนึบของมันหมูไว้บ้าง ซึ่งตรงนี้เองที่เป็นทั้งจุดเด่น และจุดที่ทำให้หลายคนต้องเบรกตัวเอง แต่แล้วแคบหมูไร้มันก็ปรากฏตัวขึ้นในเวอร์ชันที่ตัดส่วนของไขมันออกไป หรืออย่างน้อยก็ลดปริมาณลงจนเหลือน้อยที่สุด ทำให้กินได้เพลินขึ้น สบายใจขึ้นอีกหน่อย ความลับนี้ซ่อนอยู่ในหลักการทางวิทยาศาสตร์การอาหารอย่างแยบยล หนังหมูประกอบไปด้วยโปรตีนหลักอย่างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนเส้นใยที่ให้ความแข็งแรง และความยืดหยุ่นแก่ผิวหนัง เมื่อหนังหมูถูกนำไปต้ม หรือเคี่ยวในน้ำเดือดเป็นเวลานาน ความร้อนจะทำให้โครงสร้างของคอลลาเจนค่อยๆ คลายตัวออก และเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่ เรียกว่า ไฮโดรไลซิส (Hydrolysis) โดยโมเลกุลของน้ำจะเข้าไปแทรกเพื่อตัดพันธะบางส่วนในโมเลกุลคอลลาเจน ทำให้คอลลาเจนแปลงสภาพไปเป็นเจลาติน (Gelatin) ซึ่งมีลักษณะเป็นเจลเมื่อเย็นตัวลง กระบวนการนี้คือ หัวใจสำคัญด่านแรก ถ้าต้มไม่ถึงที่หนังหมูจะยังคงกระด้าง ไม่พร้อมจะพองตัว

ㅤㅤㅤหลังจากต้มจนหนังหมูนิ่มจนคอลลาเจนส่วนใหญ่เปลี่ยนเป็นเจลาตินแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือการรีดมัน หรือเลาะมันออกไปให้ได้มากที่สุด เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้แคบหมูสูตรนี้ถูก เรียกว่าแคบหมูไร้มัน ช่างทำแคบหมูจะใช้ความชำนาญในการขูด หรือแล่ชั้นไขมันแข็งที่ติดอยู่กับหนังด้านในออกไปจนเกือบหมด เหลือไว้เพียงส่วนที่เป็นหนังแท้ๆ ที่อมเจลาตินไว้เต็มที่ จากนั้นจะนำไปหั่นเป็นชิ้นตามขนาดที่ต้องการ แล้วเข้าสู่กระบวนการตากแห้ง หรืออบแห้งเพื่อไล่ความชื้นออกจากเจลาติน การลดปริมาณน้ำในหนังหมูที่ผ่านการต้มมาแล้วเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะยิ่งแห้งมากเท่าไหร่ โอกาสที่แคบหมูจะพองตัวได้ดี เมื่อเจอความร้อนสูงก็ยิ่งมีมากขึ้น ลองนึกภาพโมเลกุลของเจลาตินที่เคยอุ้มน้ำไว้ เมื่อน้ำระเหยออกไป มันจะทิ้งโครงสร้างที่เป็นรูพรุนขนาดเล็กๆ ไว้ภายใน เมื่อหนังหมูแห้งสนิทดีแล้วจะกลายเป็นแผ่นแข็งเหมือนแผ่นพลาสติกบางๆ

ㅤㅤㅤมาถึงขั้นตอนสุดท้ายที่ตัดสินความฟูกรอบด้วยการทอด บางสูตรอาจใช้การอบลมร้อน หรือไมโครเวฟเพื่อลดการใช้น้ำมัน เมื่อหนังหมูแห้งที่เต็มไปด้วยโครงข่ายเจลาตินสัมผัสกับความร้อนสูงจัดอย่างรวดเร็ว ความชื้นเพียงเล็กน้อยที่ยังหลงเหลืออยู่ภายในโครงสร้าง แม้แต่น้ำมันที่ใช้ทอดเองซึ่งแทรกซึมเข้าไป จะเดือด และกลายเป็นไออย่างฉับพลัน ไอน้ำนี้พยายามจะขยายตัว หาทางหนีออกจากโครงสร้างของเจลาตินที่เริ่มอ่อนตัวลงจากความร้อน แรงดันจากไอน้ำนี่เองที่ดันให้ผนังของโครงข่ายเจลาตินที่เคยแนบชิดกันอยู่ ขยายตัวออกอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นโพรงอากาศเล็กๆ จำนวนมหาศาลอยู่ภายในชิ้นแคบหมู ทำให้มันพองฟูขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ จนเมื่อไอน้ำหนีออกไปหมดแล้ว โครงสร้างที่พองฟูก็จะคงรูป กลายเป็นแคบหมูที่กรอบ เบา และมีเสียงซ่าเมื่อเคี้ยว นี่แหละเป็นเบื้องหลังความอร่อยที่เหมือนจะง่ายแต่เต็มไปด้วยรายละเอียด การที่เรียกว่าแคบหมูไร้มันจึงไม่ได้หมายความว่าไม่มีไขมันเลยเพราะในตัวหนังหมูเองก็ยังมีไขมันแทรกอยู่บ้างตามธรรมชาติ แต่เป็นการลดปริมาณไขมันส่วนเกินออกไปให้มากที่สุด ก่อนนำมาแปรรูป และอาศัยคุณสมบัติของคอลลาเจน รวมถึงเจลาตินในการสร้างความพองกรอบนั่นเอง

ㅤㅤㅤทีนี้มาถึงจุดที่จะทำแคบหมูไร้มันแบบย่นเวลากันแล้ว สำหรับคนที่ีมีเวลาน้อย แทนที่เราจะนำหนังหมูไปตากแดดเป็นวัน หรือผึ่งลมจนแห้งสนิทซึ่งกินเวลานานมาก หรือการแช่น้ำมันทิ้งไว้ข้ามคืน ลองใช้วิธีการต้มในน้ำมัน หรือทอดสองจังหวะแบบกระชับขึ้น จะต้องนำไปต้มในน้ำมันจนหนังหมูสุก สังเกตหนังหมูจะหดแข็ง ขั้นตอนนี้คล้ายกับการทอดครั้งแรกด้วยไฟไม่แรงมาก บางคนอาจเรียกว่าการคั่วในน้ำมัน โดยใส่น้ำมันลงในกระทะพอประมาณ ไม่ต้องท่วมมาก แล้วนำหนังหมูที่หั่นไว้ลงไป ใช้ไฟอ่อนถึงปานกลางเคี่ยวไปเรื่อยๆ น้ำมันจะช่วยรีดความชื้นที่ยังเหลืออยู่ออกจากหนังหมู และทำให้หนังหมูหดตัวและแข็งขึ้น ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาสักพัก สังเกตดูจนหนังหมูเริ่มมีสีเหลืองอ่อน บริเวณผิวแห้งลงอย่างเห็นได้ชัด ตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน ปล่อยให้เย็นตัวลงสักครู่ หนังหมูที่ผ่านขั้นตอนนี้แล้วจะแข็ง และแห้งขึ้นมากคล้ายกับการนำไปตากแดดมาแล้วระดับหนึ่งเลยทีเดียว

ㅤㅤㅤเมื่อหนังหมูพักจนเย็น มาถึงการทอดจริงเพื่อให้พองฟู ให้จัดการตั้งกระทะอีกครั้ง คราวนี้ใช้น้ำมันใหม่ ปริมาณพอสมควรสำหรับทอด เร่งไฟค่อนแรง รอจนน้ำมันร้อนจัดจริงๆ ทดสอบโดยหย่อนเศษหนังหมูเล็กๆ ลงไป ถ้าจมแล้วดีดตัวลอยฟูขึ้นมาทันทีแปลว่าใช้ได้ จากนั้นนำหนังหมูที่พักไว้ลงทอด คอยคนเบาๆ เพื่อให้โดนความร้อนทั่วถึง ไม่นานเกินรอ หนังหมูก็จะพองฟูขึ้นมาเป็นแคบหมูสีเหลืองทองน่ากิน ทอดจนได้ความกรอบที่พอใจก็ตักขึ้นพักบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน ใครชอบมีรสชาติก็โรยเกลือป่นละเอียดคลุกเคล้าตอนยังร้อนๆ ได้เลย วิธีนี้ช่วยลดขั้นตอนที่ต้องเตรียมแคบหมูไร้มันนานข้ามวัน หรือการแช่น้ำมันข้ามคืน ทำให้คนที่เวลาน้อยสามารถทำแคบหมูไร้มันกินเองได้ง่าย รวดเร็วขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะมีความแตกต่างจากสูตรโบราณในเรื่องของเนื้อสัมผัส หรือความพองฟูสุดขีด แต่รับรองว่ายังคงได้แคบหมูไร้มันที่กรอบอร่อยถูกใจ ลองปรับใช้ดูอาจจะต้องทดลองทำสักครั้ง สองครั้งเพื่อจับจังหวะ และความร้อนที่เหมาะสมกับอุปกรณ์ในครัวของเรา

ㅤㅤㅤแคบหมูไร้มัน จึงเป็นผลลัพธ์ของกระบวนการที่ใส่ใจในรายละเอียดตั้งแต่การเลือกหนังหมู การต้มที่พอเหมาะ การขจัดไขมันส่วนเกินอย่างพิถีพิถัน การตากแห้งที่สมบูรณ์ และการทอดด้วยอุณหภูมิที่แม่นยำ ทำให้ได้แคบหมูที่ยังคงความกรอบอร่อย แต่ให้ความรู้สึกที่เบากว่า ไม่เลี่ยนเท่าแคบหมูติดมันแบบดั้งเดิม คำว่าแคบหมูไร้มันจึงเป็นการสื่อถึงความพยายามลดปริมาณไขมันลง เพื่อตอบโจทย์คนที่ใส่ใจสุขภาพแต่ยังโหยหาความกรอบอร่อยของแคบหมูอยู่เสมอ แล้วเพื่อนๆ เคยลองแคบหมูไร้มันกันบ้างหรือเปล่า ชอบแบบไหนมากกว่ากัน หรือมีเคล็ดลับการทำแคบหมูในแบบฉบับของตัวเองที่อยากจะแชร์ ลองมาคอมเมนต์พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันได้เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ ที่อยากลองทำของอร่อยๆ แบบประหยัดเวลาเหมือนกัน ..

ส่วนประกอบ

👨🏼‍🍳 สำหรับ 1 – 2 จาน ⌛ ปรุง 5 ชั่วโมง

หนังหมูสด500 กรัม
น้ำเปล่า200 กรัม
น้ำมันพืชสำหรับทอด1 ลิตร

เครื่องปรุง

ผงปรุงรสหมู10 กรัม
เกลือป่น5 กรัม
ผงชูรส5 กรัม

วิธีปรุง

  • ขูดขนที่หนังหมูออกให้หมด ล้างด้วยเกลือป่น และน้ำสะอาด หั่นเป็นท่อนๆ ตามยาว พักให้พอสะเด็ดน้ำ
  • เจียวครั้งแรก ใส่หนังหมูลงในกระทะ เติมเกลือป่น ผงปรุงรสหมู ผงชูรส และน้ำเปล่า เปิดไฟกลางค่อนข้างแรง คนให้ทั่วและคนสม่ำเสมอในช่วงแรก เพื่อให้หนังหมูไม่ติดกระทะ และสุกทั่วกัน เมื่อน้ำเริ่มงวด ระเหยจนเกือบแห้ง น้ำมันจากหนังหมูจะเริ่มออกมาแทนที่
  • เมื่อน้ำมันหมูออกมาแล้ว ให้ลดไฟลงเป็นไฟกลาง คอยคนเป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้หนังหมูไหม้ และช่วยให้ความชื้นระเหยออกอย่างสม่ำเสมอ เคี่ยวต่อไปเรื่อยๆ สังเกตว่าหนังหมูจะเริ่มตึงตัว อาจมีบางส่วนเริ่มพองเล็กน้อย
  • ปิดไฟ พักหนังหมูแช่ไว้ในน้ำมันที่เจียวได้นั้น อย่างน้อย 3 – 4 ชั่วโมง หรือใช้พัดลมเป่าให้เย็น หากมีเวลาพักทิ้งไว้ข้ามคืนตามสูตรต้นฉบับได้เลย
  • เตรียมทอดครั้งที่สองหลังจากพักหนังหมูได้ที่แล้ว ให้ตักน้ำมันส่วนเกินนั้นเก็บไว้ใช้ประกอบอาหารอื่นๆ ได้
  • ตั้งกระทะน้ำมันใช้ไฟแรงจนร้อนจัด แต่ระวังอย่าให้ควันขึ้น ค่อยๆ ใส่หนังหมูที่พักไว้ลงทอด อาจแบ่งทอดทีละน้อย ซึ่งหนังหมูจะพองตัวอย่างรวดเร็ว ใช้ตะหลิวโปร่งหรือกระชอนคนเบาๆ ให้พองทั่ว และมีสีเหลืองสม่ำเสมอ ทอดจนกรอบได้ที่ ตักขึ้นพักบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน เสิร์ฟ

เคล็ดลับ

  • การแล่ไขมันยิ่งแล่ออกได้มากเท่าไหร่ แคบหมูจะยิ่งกรอบ เบา และไม่อมน้ำมันมากขึ้น
  • ในขั้นตอนการเจียวครั้งแรก สำหรับการควบคุมไฟสำคัญมาก หากไฟแรงไปหนังหมูจะไหม้ก่อนที่น้ำมันจะออกมา และหนังหมูจะแห้งพอดี
  • อย่าหยุดคน ในขั้นตอนแรกอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการติดกระทะ ทำให้เครื่องปรุงรสกระจายตัวได้ดี
  • การทอดครั้งสุดท้าย น้ำมันต้องร้อนได้ที่จริงๆ เพื่อให้หนังหมูพองตัวเต็มที่ ไม่อมน้ำมัน หากน้ำมันไม่ร้อนพอ หนังหมูจะแข็งกระด้าง ไม่พองฟู
  • ก่อนเก็บแคบหมู ควรพักให้เย็นสนิทบนตะแกรงในที่อากาศถ่ายเท เพื่อป้องกันไม่ให้ไอน้ำทำให้แคบหมูนิ่มลงได้

ขอขอบคุณ

  • ช่องยูทูป » นายแทน ชวนทำอาหาร

เสียงของชุมชน 16 ความคิดเห็น เรื่อง แคบหมูไร้มัน สูตรด่วน

  1. บัญชา เพชรยั่งยืน พูดว่า:

    แคบหมูไร้มันที่กรอบฟูเบาเหมือนร้านดังๆ ทำได้ยังไงให้มันพองตัวสวยงามขนาดนั้นครับ

    1. ครัวเจ๋ง พูดว่า:

      ต้องไล่ความชื้นออกจากหนังหมูให้ได้มากที่สุดก่อนนำไปทอดพองครับ เช่น การอบ หรือทอดด้วยไฟอ่อนในช่วงแรกเพื่อรีดน้ำมันและน้ำส่วนเกินออกอย่างรวดเร็ว หรืออาจใช้หนังหมูที่ผ่านการเตรียมเบื้องต้นมาแล้ว พอหนังหมูแห้งและแข็งได้ที่ เมื่อนำไปทอดในน้ำมันร้อนจัดประมาณ 190-210°C (องศาเซลเซียส) ความชื้นเล็กน้อยที่ยังหลงเหลืออยู่ข้างในจะระเหยเป็นไอร้อนดันให้โครงสร้างคอลลาเจนของหนังหมูพองตัวขึ้นทันทีเหมือนลูกโป่งครับ

  2. Tanawat Lertpanich พูดว่า:

    สวัสดีครับอาจารย์ หลักการทำให้พองฟูแบบนี้ สามารถนำไปใช้กับหนังไก่ หรือหนังปลาแซลมอนได้ไหมครับ?

    1. ครัวเจ๋ง พูดว่า:

      สวัสดีครับคุณธนวรรธน์ 🙏 สามารถใช้หลักการเดียวกันได้เลยครับ ทั้งหนังไก่และหนังปลาแซลมอนต่างก็อุดมไปด้วยคอลลาเจนเช่นกัน เราสามารถนำไปต้มให้คอลลาเจนเปลี่ยนเป็นเจลาติน ขูดไขมันส่วนเกินออก ตากหรืออบให้แห้งสนิท แล้วนำมาทอดให้พองฟูได้เหมือนกันครับ ผลลัพธ์ที่ได้คือหนังไก่กรอบหรือหนังปลาทอดกรอบฟูที่มีเนื้อสัมผัสเบาและไม่อมน้ำมันครับ

  3. Apinya พูดว่า:

    สวัสดีค่ะ อาจารย์ ทำเสร็จแล้วกรอบอร่อยมากค่ะ แต่พอเก็บใส่โหลไว้ วันต่อมามันเหนียวและหายกรอบไปเยอะเลยค่ะ มีวิธีเก็บรักษาที่ถูกต้องไหมคะ?

    1. ครัวเจ๋ง พูดว่า:

      สวัสดีครับคุณอภิญญา 🙏 สาเหตุที่แคบหมูเหนียวคือการดูดความชื้นกลับเข้าไปจากอากาศครับ วิธีเก็บที่ดีที่สุด ดังนี้
      1) ต้องรอให้แคบหมูเย็นสนิทจริงๆ ก่อนเก็บ เพื่อป้องกันไม่ให้มีไอน้ำควบแน่นในภาชนะ
      2) เก็บใน ภาชนะที่ปิดสนิท เช่น ถุงซิปล็อกที่ไล่อากาศออกแล้ว หรือกล่องสุญญากาศ
      3) ถ้าจะให้ดีที่สุด ให้ใส่ ซองกันชื้น (Silica Gel) ที่เป็น food grade ลงไปด้วย จะช่วยดูดความชื้นส่วนเกินและรักษาความกรอบไว้ได้นานขึ้นมากครับ

  4. Arunee Lee พูดว่า:

    ถ้าต้มหนังหมูไม่นานพอ จะเกิดอะไรขึ้นครับ แล้วมีวิธีสังเกตไหมว่าต้มได้ที่แล้วจริงๆ ก่อนจะนำไปขูดมัน

    1. ครัวเจ๋ง พูดว่า:

      สวัสดีครับคุณอรุณี 🙏 ถ้าต้มหนังหมูไม่นานพอ โปรตีนคอลลาเจนจะยังไม่เปลี่ยนเป็นเจลาตินอย่างสมบูรณ์ครับ ผลก็คือหนังหมูจะยังมีความเหนียวและกระด้างอยู่ ทำให้ขูดมันออกยาก และที่สำคัญคือเมื่อนำไปทอด มันจะ ไม่พองฟู หรือพองน้อยมาก กลายเป็นแคบหมูแข็งๆ แทนครับ วิธีสังเกตง่ายๆ คือให้ใช้ส้อมหรือเล็บจิ้มดูครับ ถ้าหนังหมู นิ่มและยุ่ยจนจิ้มทะลุได้ง่ายๆ แสดงว่าคอลลาเจนสลายตัวดีแล้ว ถือว่าใช้ได้ครับ

  5. Somchai K. Ratanakorn พูดว่า:

    สวัสดีครับอาจารย์ที่บอกว่าไร้มันแต่สุดท้ายก็เอาไปทอดในน้ำมันอยู่ดี สรุปแล้วมันดีต่อสุขภาพกว่าแคบหมูติดมันทั่วไปจริงๆ เหรอครับ ในแง่ของแคลอรี่หรือไขมันครับ?

    1. ครัวเจ๋ง พูดว่า:

      สวัสดีครับคุณสมชาย 🙏 เป็นคำถามที่ตรงประเด็นมากครับ คำว่า “ไร้มัน” ในที่นี้เป็นการสื่อถึงการขูดชั้นไขมันแข็งใต้หนังออกไปซึ่งเป็นไขมันก้อนใหญ่ครับ ทำให้ปริมาณไขมันเริ่มต้นลดลงไปอย่างมหาศาล แม้ขั้นตอนสุดท้ายจะนำไปทอด แต่หนังหมูที่แห้งแล้วจะดูดซับน้ำมันน้อยกว่าหนังหมูติดมันที่ทอดแบบดั้งเดิมครับ ดังนั้นเมื่อเทียบกันในปริมาณที่เท่ากัน แคบหมูไร้มันจะมีปริมาณไขมันและแคลอรี่โดยรวม น้อยกว่า แคบหมูติดมันอย่างมีนัยสำคัญครับ

  6. Nattapong พูดว่า:

    สวัสดีครับอาจารย์ ผมเห็นในบทความเขียนว่าอาจจะใช้เตาอบลมร้อน หรือไมโครเวฟแทนการทอดได้ด้วย มันจะพองเหมือนกันเหรอครับ แล้วต้องทำยังไง?

    1. ครัวเจ๋ง พูดว่า:

      สวัสดีครับคุณณัฐพงศ์ 🙏 เป็นอีกทางเลือกสำหรับสายสุขภาพที่ดีเลยครับ เพราะว่าเตาอบลมร้อน (Air Fryer) สามารถทำได้ครับ โดยนำหนังหมูที่เจียวจนแห้งแล้วเข้าอบที่อุณหภูมิประมาณ 200°C หนังหมูจะพองฟูขึ้นจากความร้อนที่หมุนเวียน แต่ความพองอาจจะไม่สม่ำเสมอและเนื้อจะแน่นกว่าการทอดเล็กน้อยครับ ส่วนไมโครเวฟใช้ได้เช่นกันครับ นำหนังหมูแห้งวางบนจานโดยไม่ให้ซ้อนกัน เข้าเวฟด้วยไฟแรงสุดประมาณ 1-2 นาที มันจะพองฟูขึ้นมาอย่างรวดเร็วจากคลื่นไมโครเวฟที่ทำให้น้ำในหนังหมูเดือดครับ ทั้งสองวิธีจะได้แคบหมูที่กรอบแต่มีไขมันน้อยกว่าการทอดครับ

  7. Wirat OTOP Chiang-Mai พูดว่า:

    สวัสดีครับอาจารย์ ที่โรงงานต้องการผลิตแคบหมูไร้มันเก็บไว้ขายครับ อยากทราบว่าถ้าเราทำขั้นตอนเจียวครั้งแรกจนหนังหมูแห้งแล้ว เราสามารถเก็บหนังหมูที่แห้งแล้วนี้ไว้ได้นานแค่ไหน ก่อนที่จะนำมาทอดครั้งสุดท้ายครับ

    1. ครัวเจ๋ง พูดว่า:

      สวัสดีครับคุณวิรัช 🙏 หนังหมูที่ผ่านการเจียวครั้งแรกจนแห้งสนิทดีแล้ว สามารถเก็บไว้ได้ค่อนข้างนานเลยครับ หากเก็บในภาชนะที่ปิดสนิท แห้ง และไม่โดนแสงแดด สามารถเก็บที่อุณหภูมิห้องได้นาน 1-2 สัปดาห์ หรือถ้าเก็บในตู้เย็นจะยืดอายุได้เป็นเดือนครับ วิธีนี้เหมาะมากสำหรับการผลิตจำนวนมาก เพราะทำให้เราสามารถเตรียมวัตถุดิบไว้ล่วงหน้า แล้วค่อยนำมาทอดให้พองกรอบสดใหม่ตามออเดอร์ได้ครับ

  8. P'Noom Maneewan พูดว่า:

    สวัสดีครับอาจารย์ ผมได้อ่านสูตรด่วนแล้วสนใจมากครับ สรุปคือ ผมไม่ต้องเอาหนังหมูไปตากแดดเป็นวันๆ เลยใช่ไหมครับ แค่ต้ม ขูดมัน แล้วเอามาเจียวไฟอ่อนๆ จนแห้ง แล้วค่อยทอดไฟแรงอีกที ผมเข้าใจถูกไหมครับ

    1. ครัวเจ๋ง พูดว่า:

      สวัสดีครับพี่หนุ่ม เข้าใจถูกต้องเป๊ะเลยครับ วิธีนี้คือการใช้การเจียวด้วยไฟอ่อน มาทำหน้าที่แทนการตากแดดครับ เป็นการค่อยไล่ความชื้นออกจากหนังหมูด้วยความร้อนจากน้ำมัน จนหนังหมูแห้งและแข็งตัว คล้ายกับการตากแห้งมาแล้วระดับหนึ่ง จากนั้นจึงนำไปทอดด้วยไฟแรงเพื่อให้พองฟูได้เลยครับ เป็นการย่นเวลาได้ดีมากครับ

แสดงความคิดเห็นของคุณ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

โพสต์ที่น่าสนใจ

เฉาก๊วยชากังราว ทั้งแบบผลิตภัณฑ์ และวัตถุดิบต้นเฉาก๊วยแห้ง เคล็ดลับสูตรความอร่อยจากโรงงานกำแพงเพชร
ดัชนีข้าวเหนียว

ไม่ใช่แค่เฉาก๊วย เบื้องหลังกำแพง ‘ชากังราว’ ที่ทำให้หยุดเคี้ยวไม่ได้

ชื่อเฉาก๊วยชากังราว การันตีความเหนียวหนึบ เคี้ยวเพลินจนครองใจคนไทยมานาน อร่อยจนต้องถาม แต่เคยเอะใจไหมว่า.. มันทำได้ยังไง อย่าบอกนะว่าแค...
อ่านต่อ..
ไชโป๊วผัดไข่ หัวไชโป๊วผัดไข่ สูตรครัวเจ๋ง
สูตรอาหาร

ไชโป๊วผัดไข่

ㅤㅤㅤพูดถึงข้าวต้มกุ๊ย ทีไร ท้องมันร้องทุกทีเลยยิ่งถ้าเป็นคืนฝนพรำ หรือเช้าวันหยุดสบายๆ การได้ซดข้าวต้มคล่องคอ กับกับข้าวคู่ใจสักอย่างสอง...
อ่านต่อ..
พะโล้ขาหมู โคตรเด็ด สูตรครัวเจ๋ง
สูตรอาหาร

พะโล้ขาหมู

ㅤㅤㅤเคยสงสัยไหมว่าพะโล้ขาหมู บางร้านถึงอร่อยเหาะ เนื้อเปื่อยนุ่ม หนังเด้งดึ๋ง น้ำซุปสีเข้มสวย หอมฟุ้ง แต่บางทีที่เราลองทำเองมันกลับรู้สึ...
อ่านต่อ..