ข้าวผัดกุ้ง

ㅤㅤㅤเคยตั้งคำถามในใจไหมว่า เบื้องหลังความอร่อยหอมกรุ่น ข้าวเรียงเม็ดสวย กุ้งเนื้อเด้ง ของข้าวผัดกุ้งจานเด็ดนั้น มีความลับทางวิทยาศาสตร์อะไรซ่อนอยู่? ทำไมบางครั้งผัดออกมาแล้วข้าวแฉะ กุ้งแข็งกระด้าง หรือกลิ่นไม่หอมเท่าที่ควร มันไม่ใช่แค่เรื่องของโชคหรือฝีมือปลายจวักเพียงอย่างเดียว แต่ คือ ปฏิสัมพันธ์อันซับซ้อนของความร้อน วัตถุดิบ และปฏิกิริยาเคมี ที่รังสรรค์ความอร่อยลงตัวในจานนี้ หัวใจสำคัญแรกเริ่มที่กำหนดชะตาของ ข้าวผัดกุ้ง คือ ‘ข้าว’ นั่นเอง ทำไมเชฟเก่งๆ หรือสูตร วิธีทำข้าวผัดกุ้ง ส่วนใหญ่ถึงแนะนำให้ใช้ข้าวสวยที่หุงสุกแล้วทิ้งไว้ให้เย็น หรือดีที่สุด คือ ข้าวค้างคืน คำตอบอยู่ในโครงสร้างของแป้ง (สตาร์ช) ในเมล็ดข้าว เมื่อข้าวหุงสุกใหม่ๆ โมเลกุลของสตาร์ชจะพองตัวอุ้มน้ำไว้เต็มที่ (Gelatinization) ทำให้เม็ดข้าวเหนียวนุ่มและเกาะกัน หากนำไปผัดทันที ความร้อนและความชื้นจากซอสปรุงรสจะยิ่งทำให้ข้าวแฉะ เละ ไม่เป็นเม็ดสวย แต่เมื่อทิ้งข้าวไว้ให้เย็น โดยเฉพาะการแช่เย็นข้ามคืน โมเลกุลของสตาร์ชจะเกิดกระบวนการที่ เรียกว่า Retrogradation หรือการคืนตัว มันจะจัดเรียงตัวกันใหม่ ขับน้ำส่วนเกินออกมา ทำให้เม็ดข้าวร่วนขึ้น แข็งขึ้นเล็กน้อย และทนทานต่อการผัดด้วยความร้อนสูงได้ดีกว่า จึงเป็นเคล็ดลับข้อแรกสู่ ข้าวผัด ที่มีเม็ดข้าวเด้งสวย ไม่จับตัวเป็นก้อน
ㅤㅤㅤถัดมาคือเรื่องของความร้อน และกระทะ การทำข้าวผัดกุ้งให้อร่อย มักต้องการไฟแรง และกระทะที่ร้อนจัด (โดยเฉพาะกระทะเหล็กที่เก็บ กระจายความร้อนได้ดี) ความร้อนสูงนี้ไม่ได้มีไว้แค่ทำให้ส่วนผสมสุกเร็ว แต่เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างกลิ่นหอม รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ผ่านปฏิกิริยาที่เรียกว่าปฏิกิริยาเมลลาร์ด (Maillard Reaction) ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างกรดอะมิโน (จากโปรตีนในไข่ กุ้ง และซอสปรุงรส) กับน้ำตาลรีดิวซิ่ง (Reducing Sugar) ที่มีอยู่ในส่วนผสมต่างๆ เมื่อได้รับความร้อนสูง ปฏิกิริยานี้จะสร้างสารประกอบให้กลิ่น และสีน้ำตาลน่ารับประทานหลายร้อยชนิด เกิดเป็นกลิ่นหอมซับซ้อน คล้ายกลิ่นคั่วอ่อนๆ ที่ทำให้ข้าวผัดกุ้ง มีเสน่ห์ นอกจากนี้ ความร้อนสูงยังช่วยระเหยความชื้นส่วนเกินออกจากข้าวและส่วนผสมอื่นๆ อย่างรวดเร็ว ทำให้ข้าวผัดแห้ง ไม่แฉะ แล้วกุ้งซึ่งเป็นพระเอก การจะได้กุ้งเด้ง ในข้าวผัดกุ้งนั้น เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงโปรตีนในเนื้อกุ้งเมื่อโดนความร้อน (Protein Denaturation) ความร้อนทำให้โครงสร้างโปรตีนคลายตัวและจับตัวกันใหม่ ทำให้เนื้อกุ้งจากสีเทาใสกลายเป็นสีส้มขุ่น และเนื้อแน่นขึ้น แต่ถ้าใช้เวลานานเกินไป หรือความร้อนสูงเกินไป โปรตีนจะจับตัวกันแน่นจนขับน้ำในเซลล์ออกมามากเกินไป ทำให้กุ้งหดตัวและเนื้อแข็งกระด้าง ดังนั้น การผัดกุ้งจึงต้องรวดเร็ว ใช้เวลาพอเหมาะ แค่พอให้กุ้งสุกและเปลี่ยนสีทั่วถึง ก็จะได้เนื้อสัมผัสที่กรอบนอกนุ่มใน กำลังดี สีส้มสวยงามของกุ้งที่สุกแล้วมาจากสารแอสตาแซนทิน (Astaxanthin) ซึ่งเป็นรงควัตถุในกลุ่มแคโรทีนอยด์
ㅤㅤㅤส่วนผสมอื่นๆ ก็มีบทบาททางวิทยาศาสตร์เช่นกัน เช่น กระเทียมเมื่อสับและโดนความร้อน เอนไซม์อัลลิอิเนส (Alliinase) จะทำปฏิกิริยากับสารอัลลิอิน (Alliin) เกิดเป็นสารอัลลิซิน (Allicin) และสารประกอบกำมะถันอื่นๆ ที่ให้กลิ่นฉุนอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งจะเปลี่ยนไปเป็นกลิ่นหอมเมื่อโดนความร้อนในการผัดไข่ นอกจากจะให้โปรตีน และสีสันแล้ว ไขมันในไข่แดงยังช่วยเคลือบเม็ดข้าว เพิ่มความหอมมัน และเลซิตินในไข่แดงก็ทำหน้าที่เป็นอิมัลซิไฟเออร์ตามธรรมชาติ ช่วยให้น้ำมันและส่วนผสมที่เป็นน้ำ (เช่น ซอส) กระจายตัวเข้ากันได้ดีขึ้นเล็กน้อย รวมถึงซอสปรุงรสต่างๆ (น้ำปลา ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย) ไม่เพียงแต่ให้รสเค็ม แต่ยังเป็นแหล่งของกรดอะมิโน (โดยเฉพาะกลูตาเมต) ที่ให้รสอูมามิ (Umami) หรือรสอร่อยกลมกล่อม ซึ่งทำงานร่วมกับรสหวานเล็กน้อยจากน้ำตาล และกลิ่นหอมที่เกิดจากปฏิกิริยาเมลลาร์ด ทำให้ข้าวผัดกุ้งมีมิติของรสชาติที่สมบูรณ์
ㅤㅤㅤการผัดข้าวต้องกคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันในกระทะร้อนๆ อันเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่รวมเอาหลักการทางวิทยาศาสตร์เหล่านี้มาไว้ด้วยกัน การใช้ตะหลิวเขย่า คลุก หรือร่อนข้าวในกระทะ ช่วยให้เม็ดข้าวและส่วนผสมต่างๆ สัมผัสกับความร้อนอย่างทั่วถึง ช่วยให้ความชื้นระเหยออกไป ช่วยให้ซอสปรุงรสเคลือบส่วนผสมอย่างสม่ำเสมอ และช่วยให้เกิดปฏิกิริยาเมลลาร์ดได้อย่างเต็มที่ ข้าวผัดกุ้งจานร้อน ที่หอมกรุ่น ข้าวเรียงเม็ดสวยงาม กุ้งเนื้อแน่นเด้ง รสชาติกลมกล่อมลงตัว
ㅤㅤㅤเห็นไหมครับว่า ข้าวผัดกุ้งจานธรรมดาๆ ที่เราคุ้นเคยนั้น เต็มไปด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์การอาหารที่น่าทึ่งซ่อนอยู่ ตั้งแต่การเลือกข้าว การควบคุมความร้อน ไปจนถึงปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นในกระทะ การเข้าใจย่อมช่วยให้ทำ ข้าวผัดกุ้งจานต่อไปได้อร่อยยิ่งขึ้น แล้วถ้ามีเคล็ดลับส่วนตัว หรือเคยเจอปัญหาอะไรในการทำข้าวผัดกุ้งที่อยากจะแบ่งปันเพื่อให้ได้ข้าวผัดกุ้งอร่อยขั้นเทพ ลองมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันในคอมเมนต์ข้างล่างนี้ได้เลยครับ..
ส่วนประกอบ
👨🏼🍳 สำหรับ 1 – 2 จาน ⌛ ปรุง 20 นาที
ข้าวสวย (หุงค้างคืน) | 300 กรัม |
กุ้งขาวแกะเปลือก | 6 – 7 ตัว |
ไข่ไก่ เบอร์ 2 | 1 ฟอง |
หอมหัวใหญ่หั่นเต๋า | |
กระเทียบสับ | |
ต้นหอม ผักชีหั่น | |
น้ำมันพืชสำหรับผัด | |
เครื่องเคียง เช่น แตงกวา ต้นหอม |
เครื่องปรุง
น้ำตาลทรายขาว | |
ซอสปรุงรส | |
ผงชูรส | |
พริกไทยป่น (ตามชอบ) |
ของมันต้องมี
เฟรชชี่ ไซรัปกลิ่นส้ม 710 มล. (ขวด)
Original price was: ฿65.฿59Current price is: ฿59.เซฟ ฿6วิธีปรุง
- ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ใช้ไฟกลาง พอน้ำมันร้อน ใส่กระเทียมลงไปเจียวให้หอมเหลือง
- ใส่กุ้งลงผัดเร็วๆ พอให้กุ้งเริ่มเปลี่ยนสี และเกือบสุก ตักกุ้งออกพักไว้
- ตอกไข่ใส่ลงไปในกระทะ ยีไข่แดงให้แตก รอให้ไข่เริ่มเซ็ตตัวเล็กน้อย ตามด้วยหอมหัวใหญ่ลงไปผัดจนสุก ใส่ข้าวสวยลงไป ใช้ตะหลิวยีข้าวให้เม็ดร่วน ไม่เกาะกันเป็นก้อน เร่งไฟขึ้นตามไปเล็กน้อย
- ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และผงชูรส ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันอย่างรวดเร็ว ชิมรส ผัดจนข้าวแห้ง เม็ดร่วนสวย และมีกลิ่นหอมไหม้กระทะเล็กน้อย ใส่ต้นหอมซอย กุ้งสุกที่พักไว้ และพริกไทยป่น เคล้าให้เข้ากัน ปิดไฟ
เคล็ดลับ
- สำคัญมาก! ข้าวต้องเย็นและร่วน ใช้ข้าวสวยที่หุงทิ้งไว้จนเย็นสนิท หรือข้าวค้างคืน จะช่วยให้ผัดแล้วเม็ดสวย ไม่แฉะ
- ไฟต้องแรง ผัดต้องไว ใช้ไฟแรงจะช่วยให้ข้าวแห้งเร็ว มีกลิ่นหอมกระทะ (Wok Hei) และส่วนผสมไม่คายน้ำออกมามากเกินไป
- ผัดกุ้งแค่พอสุก อย่าผัดกุ้งนานเกินไป เนื้อกุ้งจะแข็งกระด้าง จะได้กุ้งที่เนื้อเด้งพอดี ตักออกเก็บไว้โรยหน้าตอนเสิร์ฟ
ขอขอบคุณ
- ช่องยูทูป » ครัวบ้านสวนทวี – Baan Suan Tawee Cooking
ทำไมล่ะคะ ถ้าใช้ข้าวหุงใหม่ร้อนๆ ผัดเลยจะเป็นยังไง?
เพราะข้าวเย็นค้างคืนเม็ดข้าวเขาจะสูญเสียความชื้นไปบางส่วน และโครงสร้างแป้งมันจะเซ็ตตัวขึ้นมาก (Starch Retrogradation) ทำให้เม็ดแข็งขึ้นเล็กน้อยครับ พอเอาไปผัดในกระทะร้อนๆ มันเลยไม่ดูดซับน้ำมันกับซอสมากเกินไป ทำให้เม็ดข้าวเรียงตัวสวย ร่วน ไม่เกาะเป็นก้อน ไม่แฉะครับ แต่ถ้าเอาข้าวหุงใหม่ร้อนๆ ที่ยังนุ่มชุ่มฉ่ำไปผัดนะครับ