ดัชนีข้าวเหนียว

ลับ ลวง พราง อิ่มอำมหิต UPFs ความอร่อยที่ต้องตั้งคำถาม?

อาหารแปรรูป (UPF) เช่น อาหารสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสม และสารปรุงแต่งหลายชนิด ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว

ลองนึกถึงความอร่อยถูกปากที่คุ้นเคยกับวิถีการกินของคนส่วนใหญ่อย่างเงียบๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากอาหารที่ปรุงแต่งน้อยเพียงน้ำตาล เกลือป่น กะปิ และน้ำปลาตามธรรมชาติ หรือด้วยวัตถุดิบที่คุ้นเคยในครัวเรือน แต่ด้วยความเร่งรีบของหนุ่มสาวสมัยใหม่ กอปรกับความต้องการอาหารเพื่อสุขภาพ จึงทำให้หลายผู้ประกอบการอาหารกลับต้องมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสมัยใหม่ที่หน้าตาแปลกตา เรียกร้องความสนใจ แพ็คเกจจิ้งสวยงามชวนซื้อ กระตุ้นยอดขาย และรสชาติแสนอร่อยครบรสหวาน มัน เค็ม จนทำให้เคยสงสัยไหมว่าอะไรเป็นเบื้องหลังวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีอาหารที่ควรจะนำมาซึ่งชีวิตที่ดี เพื่อสุขภาพและโภชนาการอย่างครบถ้วน แต่กลับกลายเป็นความอิ่มอำมหิตที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้คนทั่วโลกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ความก้าวหน้าเหล่านี้กำลังซ่อนเร้นอะไรไว้ และจะรู้อย่างไรว่าสิ่งที่กำลังทานเข้าไปทุกวันนั้น เป็นความจริงที่อาจทำให้หลายคนต้องตกใจในกับดักแสนอร่อยที่รอวันส่งผลต่อร่างกายหรือเปล่า

ㅤㅤㅤความน่าตกใจเริ่มปรากฏชัดเจนขึ้นเมื่อรู้จักกับ อาหารแปรรูป หรือ Ultra-Processed Foods (UPFs) สิ่งนี้เริ่มเป็นอาหารที่มักพบเห็นส่วนประกอบต่างๆ ชื่อส่วนผสมแปลกๆ ได้จากร้านของชำทั่วไป ร้านอาหารตามสั่ง ร้านกาแฟ ร้านชานมไข่มุกแก้วโปรด หรือแม้แต่ในครัวตู้กับข้าว ซึ่งถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยวิทยาศาสตร์การอาหาร ผ่านกระบวนการทางอุตสาหกรรมตั่งแต่ง่ายไปจนถึงขั้นสูง ส่วนผสมมักประกอบด้วยสารสกัดจากอาหาร เช่น ผงปรุงรสต่างๆ มอลโทเดกซ์ทริน หรือน้ำเชื่อมข้าวโพดฟรุกโตสสูง ร่วมกับสารปรุงแต่งมากมายที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ โดยออกแบบมาเพื่อเลียนแบบคุณสมบัติทางประสาทสัมผัส เลียนแบบกลิ่นรสปรุงสดใหม่ หรือเพื่อปิดบังสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ของวัตถุดิบพื้นฐาน ลองนึกถึงสีสันสวยสดใส กลิ่นหอมยั่วยวน เนื้อสัมผัสที่กรอบนอกนุ่มใน รสชาติเลียนแบบธรรมชาติ หรือความชุ่มฉ่ำละลายในปาก ทั้งหมดนี้เกิดจากวัตถุเจือปนอาหาร ไม่ว่าจะเป็นสีผสมอาหาร กลิ่นผสมอาหาร อิมัลซิไฟเออร์ สารให้ความหวาน สารเพิ่มความข้นเหนียว และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งมักถูกบรรจุในแพ็คเกจจิ้งที่สวยงาม ดึงดูดใจ และแม้ว่าบางอย่างจะทำการตลาดด้วยภาพลักษณ์ของอาหารเพื่อสุขภาพ แต่เมื่อดูจากส่วนประกอบในอาหารแล้วไม่ต่างจากอาหารชวนให้เสพติด โดยมีงานวิจัยที่ใช้การสแกนสมอง พบว่า รูปแบบการทำงานของสมองในผู้ที่เสพติด UPFs นั้นคล้ายคลึงกับผู้ที่ติดยาเสพติดเลยทีเดียว

ㅤㅤㅤย้อนกลับไปถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อมีความต้องการอาหารกระป๋องที่เก็บได้นาน และขนส่งง่ายสำหรับกองทัพทหาร เทคโนโลยีการแปรรูปอาหารจึงถูกเร่งพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ต่อมาหลังสงครามสิ้นสุดลง อุตสาหกรรมอาหารได้นำองค์ความรู้รวมถึงเทคโนโลยีมาปรับใช้ โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญด้วยความคุ้มค่าในการผลิต อายุการเก็บรักษาอาหารที่ยาวนานขึ้น ลดปริมาณการสูญเสียจากอาหารเน่าเสีย โดยที่สำคัญที่สุดเป็นความสะดวกสบายที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตที่เร่งรีบมากขึ้นของคนส่วนใหญ่ในยุคอุตสาหกรรม เพียงแค่แกะ ฉีกถุง เทใส่จาน หรืออุ่นในไมโครเวฟเพียงไม่กี่นาที อาหารหน้าตาน่ากินก็พร้อมเสิร์ฟ สิ่งเหล่านี้ทำให้ อาหารแปรรูป หรือ Ultra-Processed Foods (UPFs) ต่อไปนี้จะเรียกว่า UPFs เข้าแทรกซึมเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันอย่างรวดเร็ว รวมถึงประเทศกำลังพัฒนาอย่างประเทศไทย ที่พบว่ามีจำนวนไม่น้อยชอบทานอาหารรสชาติจัดจ้าน ต้องหวาน มัน เค็ม ครบรส ทำให้บรรดาผู้ประกอบการต้องเอาใจคนกินขนเครื่องปรุงรสใส่กระทะให้ทุกคำเป็นความอร่อยจนทำให้เสพติดเป็นประจำ

ㅤㅤㅤกลไกสำคัญที่ทำให้ UPFs ประสบความสำเร็จอย่างมากในยุคปัจจุบันนี้ แม้ว่าจะมีการรณรงค์ด้วยการขึ้นภาษีรสชาติ หรือการขออนุญาตโฆษณาเผยเเพร่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอาหารก่อน รวมไปถึงฉลากเพื่อสุขภาพก็ตามแต่ความเข้าใจในเชิงลึกของวิทยาศาสตร์การอาหาร ผู้ประกอบการได้มีการวิจัย และออกแบบผลิตภัณฑ์อย่างชาญฉลาด เพื่อให้มีรสชาติ ถูกปาก ถูกใจจนยากจะหยุดกินได้ ด้วยการใช้ส่วนผสมของน้ำตาล ไขมัน และเกลือในสัดส่วนที่สูงเป็นพิเศษเพื่อกระตุ้นการหลั่งสารสื่อประสาทแห่งความสุขอย่างโดปามีนในสมอง ก่อให้เกิดความรู้สึกพึงพอใจ และความอยากอาหารเพิ่มมากขึ้น วงจรนี้คล้ายคลึงกับการทำงานของสารเสพติดบางชนิด ทั้งเนื้อสัมผัส สีสัน และกลิ่นที่ผ่านการปรุงแต่งก็มีส่วนสำคัญในการเพิ่มความน่าทาน

ㅤㅤㅤอาหาร UPFs ส่วนใหญ่มักทำให้ย่อยง่าย และดูดซึมพลังงานได้อย่างรวดเร็ว เส้นใยอาหารตามธรรมชาติมักถูกคัดออกไปด้วยการคั้นเอาแต่น้ำ หรือเนื้อ ต้มจนสุกเปื่อย เคี่ยวให้เข้มข้น ปอก ทอดกรอบ เจียวจนเป้นสีเหลืองทอง สเปรย์ให้เป็นผงปรุงแต่งรสชาติ หรืออื่นๆ ทำให้ร่างกายได้รับแคลอรี่จำนวนมากในเวลาอันสั้น จนร่างกายจึงถูกหลอกให้ต้องการอาหารเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง

อาหารกระป๋องแปรรูป UPFs 
ปลาซาร์ดีนบรรจุในซอสมะเขือเทศสีแดง
โรงงานสกัด และกลั่นน้ำมันพืชสำหรับอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปขั้นสูง UPFs แสดงเครื่องจักรขนาดใหญ่ ในกระบวนการผลิตน้ำมันพืช
เครื่องจักรในโรงงานอาหารแปรรูป UPFs กำลังบรรจุส่วนผสมไส้กรอกอย่างต่อเนื่องในสายการผลิต
มวลลูกกวาดชิ้นเล็กหลากสีสันสดใส กำลังถูกจัดการโดยมือ ในกระบวนการผลิตของโรงงานขนมหวานอุตสาหกรรม UPFs
เยลลี่คาราจีแนนหลากสีสัน รูปทรงหลากหลาย บางชิ้นเคลือบน้ำตาลเงางาม ซึ่งเป็นผลผลิตจากกระบวนการผลิตในโรงงานอาหารแปรรูป UPFs

ㅤㅤㅤปรากฏการณ์ที่น่าสังเกตุอย่างยิ่ง เมื่อคนรายได้ต่ำยิ่งจนยิ่งกินอาหาร UPFs มากขึ้น เพราะไม่ใช่ทางเลือกเพื่อสุขภาพ แต่เป็นทางรอดจับต้องง่าย ราคาถูก และยังสะท้อนถึงผลพวงจากเศรษฐกิจ และสังคมที่ซับซ้อน ซึ่งอาหาร UPFs มักผลิตด้วยวัตถุดิบราคาถูก เช่น แป้งขัดขาว น้ำตาลในปริมาณมาก น้ำมันพืช และผลพลอยได้จากอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ ซึ่งได้รับการอุดหนุนจากภาครัฐในหลายประเทศ ทำให้ต้นทุนการผลิตต่อแคลอรี่ต่ำกว่าอาหารสด ใหม่ ปรุงแต่งน้อยตามธรรมชาติอย่างมาก กอปรกับอายุการเก็บรักษาอาหารที่ยาวนาน ทำให้สามารถกระจายสินค้าไปได้กว้างขวาง ลดต้นทุนได้ เมื่อเปรียบเทียบระหว่างต้นทุนของผักผลไม้สด เนื้อสัตว์ปลอดสารเร่ง หรือเมล็ดพืชเต็มเมล็ดที่มีราคาสูงกว่าสำหรับคนรายได้ต่ำ โดยเฉพาะในพื้นที่ เรียกว่า ทะเลทรายอาหาร (Food deserts) ซึ่งเป็นย่านขาดแคลนร้านค้าที่จำหน่ายอาหารสดใหม่ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยความจนเรื่องเวลา (Time poverty) ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญสำหรับคนที่ต้องทำงานหลายอย่าง หรือทำงานเป็นเวลานาน มักไม่มีเวลาเพียงพอสำหรับเตรียม และปรุงอาหารเอง UPFs จึงกลายเป็นทางเลือกที่สะดวก รวดเร็วจากร้านโชว์ห่วย ร้านอาหารตามสั่ง บนเชลล์สรรพสินค้าต่างๆ แม้ว่าจะรู้ถึงผลต่อสุขภาพที่ระบุไว้บนประกาศของฉลากอาหารไว้ก็ตาม

ㅤㅤㅤผลกระทบต่อสุขภาพจาก UPFs ในปริมาณมาก ได้รับการยืนยันจากผลงานวิจัยจำนวนมาก ซึ่งเชื่อมโยงโดยตรงกับอัตราการเกิดโรคอ้วน และกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของโลก แซงหน้าการสูบบุหรี่ไปแล้วด้วยซ้ำ โดยมีผลงานเขียนอ้างอิงหนึ่งที่น่าสนใจถูกตีพิมพ์ของ ดร. คริส ฟาน ทูลเลเกน ชื่อหนังสือว่า ‘Ultra Process People’ ได้ทำการทดลองกับตัวเองโดยการทานอาหารที่เป็น UPFs เป็นหลักนาน 1 เดือน (30 วัน) ผลลัพธ์ที่ได้เกิดขึ้นกับสุขภาพจนแย่ลง ทั้งน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นถึง 6 กิโลกรัม รวมถึงระดับฮอร์โมนความหิวที่ผิดปกติ การทำงานของสมองที่เปลี่ยนแปลงไปในทางลบ แล้วยังมีการวิเคราะห์อภิมาน (Meta-analysis) จากงานวิจัยคุณภาพสูงหลายสิบชิ้นในปี พ.ศ. 2567 (ค.ศ. 2024) ที่ผ่านมา พบความเชื่อมโยงที่ชัดเจนระหว่างการทาน UPFs ในปริมาณสูงเป็นประจำกับผลลัพธ์ทางสุขภาพที่ไม่พึงประสงค์มากถึง 32 ประการ ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคมะเร็ง ภาวะซึมเศร้า และความเสื่อมถอยของระบบการเผาผลาญ กลไกเบื้องหลังอาจเกี่ยวข้องกับการได้รับพลังงานส่วนเกิน การขาดสารอาหารที่จำเป็น เช่น วิตามิน แร่ธาตุ ทำให้การได้รับสารปรุงแต่งในปริมาณมากที่อาจส่งผลเสียต่อจุลินทรีย์ในลำไส้ และการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน รวมถึงการเกิดภาวะอักเสบเรื้อรังในร่างกายด้วย

ㅤㅤㅤความสำเร็จของ UPFs ไม่ได้มีเพียงรสชาติ และความสะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังมีการตลาดอย่างเข้าใจกลยุทธ์ส่งตรงถึงลูกค้าอย่างจัดเต็ม อุตสาหกรรมอาหารขนาดใหญ่ของกลุ่มนายทุนมีงบประมาณมหาศาลในการโฆษณาโดยมีเป้าหมายไปที่หนุ่มสาวสมัยใหม่ ผ่านการใช้แพ็คเกจจิ้งสีสีนสดใส ดาราศิลปิน ของเล่น การสะสมแต้ม สร้างความผูกพัน และความภักดีต่อแบรนด์ เป็นต้น รวมถึงการตลาดที่สอดแทรกความรู้ ความเข้าใจ เน้นความสะดวกสบาย ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนเมืองที่ทุกอย่างต้องรวดเร็วทันใจด้วยการฟอกเขียว (Health washing) โดยกล่าวอ้างสรรพคุณเกินจริง หรือทำให้เข้าใจผิดอย่างไขมันต่ำ แต่ตามฉลากก็พบว่า มีน้ำตาลสูงมาก หรือการใส่วิตามิน และแร่ธาตุ ซึ่งในคุณค่าทางโภชนาการแล้วน้อยมาก หรือทำจากธัญพืชโฮลเกรนซึ่งมีสัดส่วนเพียงเล็กน้อย เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ โดยบางอย่างอาจมีการใช้คำกล่าวอ้างที่ช่วยชักจูงให้เชื่อว่า สารอาหารจำเป็นต่อการพัฒนาการทางสมองได้อีกด้วย

ㅤㅤㅤโปรโมชั่นลด แลก แจก แถมต่างๆ เป็นเครื่องมือสำคัญในการกระตุ้นความอยากซื้อ นอกจากนี้ อุตสาหกรรมอาหารยังมีอิทธิพลต่องานวิจัยทางวิทยาศาสตร์การอาหาร รวมถึงการออกนโยบายภาครัฐอันเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ หรือคัดค้านมาตรการที่อาจส่งผลกระทบต่อยอดขาย เมื่อมองเห็นภาพรวมของปัญหาแล้ว จุดสังเกตของฝั่งลูกค้าจะสามารถรับมืออย่างไรได้บ้าง โดยเปรียบเทียบกับปัญหายาสูบในอดีต อาจให้บทเรียนที่มีคุณค่า แนวทางแก้ไขที่เป็นไปได้มีหลายมิติ เริ่มตั้งแต่จำกัดการโฆษณาส่งเสริมการขาย UPFs ที่มุ่งเป้าไปยังนุ่มสาวสมัยใหม่ การใช้มาตรการทางภาษีสำหรับอาหารที่มีน้ำตาล ไขมัน หรือเกลือ (โซเดียม) ในปริมาณสูง เพื่อส่งผลให้ราคาสินค้าเหล่านี้สะท้อนต้นทุนทางสุขภาพที่แท้จริง และนำรายได้มาสนับสนุนโครงการส่งเสริมสุขภาพ หรือการใช้ฉลากคำเตือนที่ชัดเจน และเข้าใจง่ายบนแพ็คเกจจิ้ง เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อได้อย่างมีข้อมูลความเข้าใจมากขึ้น หลายประเทศที่ได้นำมาปรับใช้ก็เริ่มเห็นผลลัพธ์ในเชิงบวกแล้ว ทั้งการลดลงของการทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และปรับสูตรผลิตภัณฑ์จากฝั่งผู้ผลิตให้มีคุณค่าทางโภชนาการที่สูงขึ้น ถึงเวลาแล้วที่ต้องตื่นรู้ และทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับอาหารแปรรูปเพื่อปูทางไปสู่ระบบอาหารที่ยั่งยืนดีต่อสุขภาพ ลองสังเกตฉลากอาหารที่หยิบใส่ตะกร้าดูทุกครั้ง จะทำให้เข้าใจ และแยกแยะอาหารเหล่านี้ออกจากไปได้ การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ถึงวิธีเลือกซื้อและการทานอาหารของเรา เมื่อรวมกันแล้วสามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ได้ เมื่อตระหนึกถึงความรู้ ความเข้าใจเรื่องอาหาร (Food literacy) และทักษะปรุงอาหารเองจากวัตถุดิบสดใหม่ จะเป็นเกราะป้องกันสำคัญที่ช่วยให้ตัวเอง และครอบครัวมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว

กล่องพลาสติกอาหารแช่แข็งพร้อมทาน ข้าวผัดกะเพรา ในร้านสะดวกซื้อที่พร้อมอุ่นด้วยไมโครเวฟ จากกระบวนการผลิตในโรงงานอาหารแปรรูป UPFs
ร้านข้าวแกงที่มีอาหารหลากหลายชนิด เช่น แกง ผัด และเครื่องเคียงต่างๆ ซึ่งมีกาารใช้ผงชูรสเพิ่มความอร่อย
ตู้แช่แข็งขนาดใหญ่ในซูเปอร์มาร์เก็ต จัดเรียงผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งแปรรูป UPFs หลากหลายชนิด ทั้งอาหารพร้อมทาน ไอศกรีม และขนมขบเคี้ยวแช่แข็ง
ลูกค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต กำลังเลือกซื้ออาหารแปรรูป UPFs จากชั้นวางสินค้า ซึ่งเต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์บรรจุหีบห่อหลากหลายชนิด
กระบวนการทำงานในห้องปฏิบัติการวิจัย และพัฒนา (R&D) ของโรงงานอาหารแปรรูป UPFs โดยกำลังตรวจสอบ และเตรียมส่วนผสมต่างๆสำหรับการคิดค้นสูตรอาหารใหม่

ㅤㅤㅤทีนี้มาดูตัวอย่างเชิงลึกของอาหารแปรรูปขั้นสูง หรือ UPFs มันซ่อนตัวเนียนๆ อยู่ในชีวิตประจำวันอย่างไรบางทีอาจจะอยู่ในที่ไม่เคยคาดคิดด้วยซ้ำอย่างเช่น กล้วยบาบีคิว ที่ขายกันทั่วไปอาจจะมองว่า อย่างน้อยก็ได้คุณค่าทางโภชนาการจากกล้วย เพราะว่ากล้วยเป็นผลไม้ที่ดีมีประโยชน์ทางอาหาร มีใยอาหาร เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรต มีวิตามิน และแร่ธาตุ แต่พอถูกนำมาทอดกรอบ แล้วคลุกเคล้ากับผงปรุงรสบาร์บีคิว หรือผงปรุงรสอื่นๆ เรื่องราวนี้ก็เริ่มเปลี่ยนไป ผงปรุงรสที่คิดว่าแค่เพิ่มรสชาติให้อร่อยนั้น แท้จริงแล้วในทางวิทยาศาสตร์การอาหาร คือ ส่วนผสมของสารพัดสิ่ง ทั้งเกลือ น้ำตาล ที่มาในหลายรูปแบบของ เดกซ์โทรส มอลโทเดกซ์ทริน สารเพิ่มรสชาติอย่าง โมโนโซเดียมกลูตาเมต ยีสต์สกัด ไดโซเดียมไอโนซิเนต/กัวไนเลต ที่ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างรสอูมามิ สารป้องกันการจับตัวเป็นก้อน สีผสมอาหาร และกลิ่นสังเคราะห์เลียนแบบธรรมชาติ ทั้งหมดนี้ถูกออกแบบมาอย่างแม่นยำเพื่อกระตุ้นต่อมรับรสบนลิ้นให้รู้สึกฟินจนหยุดกินไม่ได้ เผลอแปบเดียวทานไปหมดซองแล้ว เปลี่ยนจากกล้วยดี กลายเป็นขนมที่เต็มไปด้วยส่วนผสมชวนเสพติดรสชาติอย่างง่ายดาย

ㅤㅤㅤร้านอาหารตามสั่งใกล้ฉัน ที่เหมือนว่าจะปรุงสดใหม่จานต่อจาน เมนูยอดฮิตอย่างผัดกะเพราหมูสับที่สั่งกันเป็นประจำ หลายคนสบายใจว่าได้กินของสด ใหม่ แน่นอน แต่ในยุคที่การแข่งขันสูงการลดต้นทุนเป็นเรื่องสำคัญของผู้ประกอบการ บรรดาซอสผัดกะเพราสำเร็จรูปจึงกลายเป็นตัวช่วยยอดนิยมที่ไม่ใช่แค่มีส่วนผสมของพริก กระเทียม ใบกะเพราที่ตำกินเองในบ้าน แต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคิดค้นในห้องปฏิบัติการทางอาหาร มักมีส่วนผสมของแป้งดัดแปร (Modified starch) เพื่อให้ซอสข้นหนืดน่าทาน วัตถุกันเสีย เกลือ และน้ำตาลในปริมาณที่สูง สารเพิ่มรสชาติเพื่อชดเชยกลิ่นรสของวัตถุดิบที่ไม่สดใหม่เท่าที่ควร และบางครั้งมีสี และกลิ่นสังเคราะห์เพื่อให้ผัดอาหารแล้วดูน่าทานสม่ำเสมอทุกจาน แม้แต่กลิ่นหอมๆ ของใบกะเพรา และกลิ่นกะทะไหม้ก็ยังมีจำหน่ายเกลื่อนกลาดตามเชลล์สรรพสินค้าชั้นนำ ผลลัพธ์คือ ผัดกะเพราที่ดูดี รสชาติจัดจ้าน ถูกปาก แต่คุณค่าทางอาหาร รวมถึงความสดใหม่ที่แท้จริงลดน้อยถอยลงไปโดยที่ไม่รู้ตัว กลายเป็นว่ากำลังทานอาหาร UPFs เข้าไปในทุกมื้ออาหารหลักโดยไม่รู้ตัว

ㅤㅤㅤเครื่องดื่มในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพทำให้เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพผุดขึ้นมาเต็มเชลล์สรรพสินค้าอย่าง น้ำเต้าหู้ ถ้าเป็นแบบต้มใหม่ไม่ใส่น้ำตาลถือว่าดี มีสารอาหารครบ ให้คุณค่าทางโภชนาการ แต่ถ้าเป็นสูตรที่ปรุงแต่งรสชาติ ลองพลิกดูฉลากอาจจะเจอทั้งน้ำตาลปริมาณสูงเกินกว่าความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน ยังมีน้ำมันพืช สารอิมัลซิไฟเออร์ (เพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันไม่แยกชั้น) สารคงตัว เช่น คาราจีแนน กัมเจลแลน หรือแม้แต่วิตามินสังเคราะห์ที่เติมเข้าไปเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสุขภาพ ยังมีชานม ชาไทยสีส้ม ชาเขียวพร้อมดื่ม แก้วโตเช่นกัน ความหวานส่วนใหญ่มักมาจากน้ำเชื่อมข้าวโพด ฟรุกโตสสูง หรือครีมเทียมข้นหวานซึ่งผ่านกระบวนการแปรรูปมาแล้วที่ทำมาจากไขมันพืชเติมไฮโดรเจน รวมไปถึงสารเคมีอีกหลายชนิดเพื่อให้ได้รสชาติหอม มัน กลมกล่อม สีสันสวยน่าดื่ม และชาไข่มุกซึ่งมีส่วนผสมของแป้งมันสำปะหลัง และสารปรุงแต่งอื่นๆ บวกกับน้ำเชื่อม และครีมเทียมเข้าไปให้ดูน่าสนใจ โดยทางการแพทย์แล้วยังคงยืนยันว่า ‘น้ำที่ดีที่สุดคือน้ำเปล่า’ ไม่ต้องเสียเงินแพงให้กับกลยุทธ์ทางการตลาดที่ทำให้เชื่อว่ากำลังดื่มอะไรที่ดีที่สุดเพื่อสุขภาพ

ㅤㅤㅤเอาล่ะสิ หากยังเคลิ้มไปกับคำโลกสวยที่ได้ยินอยู่ทุกวัน ปล่อยให้ฉลากตัวเล็กๆ ข้างซองที่อัดแน่นด้วยชื่อสารเคมีแปลกๆ มาลองสแกนดูสักหน่อยว่ากำลังจะทานอะไรเข้าไปบ้าง การลองลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเองดู สลัดความขี้เกียจแล้วหันมาใส่ใจเรื่องวัตถุดิบอาหารจริง ที่หน้าตาอาจไม่สวยปิ๊งเหมือนอย่างโฆษณา หรือรสชาติมันอาจจะไม่แซ่บสะท้านลิ้นในสามวิแบบที่คุ้นเคยมาก่อน แต่เป็นรสชาติจริงของชีวิต และสุขภาพ ซึ่งพวกคลั่งผลกำไรหน้าไหนก็ไม่สามารถเสกอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีที่สุดให้ไม่ได้หรอก มาช่วยกันตื่นรู้แล้วหันมาดูแลตัวเอง หรือจะยอมโดนให้เขาทำให้เสพติดไปจนวันสุดท้าย มันอยู่ที่คุณแล้วล่ะ

อ้างอิงถึงข้อมูลทางวิชาการ

ㅤㅤㅤ• Van Tulleken, C. (2023). Ultra-Processed People: Why We Can’t Stop Eating Food That Isn’t Food. London: Cornerstone Press.

แสดงความคิดเห็นของคุณ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *